พังงาเป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยความงามของธรรมชาติ ทั้งทะเลและภูเขา ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือน นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ของฝากพังงาก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นของฝากที่สะท้อนความเป็นพังงาได้อย่างดี หากมาพังงาแล้วไม่ซื้อของฝากกลับไปถือว่ามาไม่ถึง!

ในช่วงที่มาเที่ยวพังงา ใครที่อยากสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามการพักผ่อนใน พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao Resort) เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่ควรพลาด รีสอร์ทเกาะยาวน้อยแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลและภูเขา ให้คุณได้พักผ่อนท่ามกลางความเงียบสงบ พร้อมกิจกรรมหลากหลาย นอกจากนี้ร้านอาหารพังงาในรีสอร์ทนี้ยังเสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่จากอ่าวพังงาและเมนูท้องถิ่นที่จะทำให้มื้ออาหารของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ 

1. ขนมเต้าส้อ

เต้าส้อถือเป็นของฝากพังงาที่มีประวัติยาวนาน สืบทอดกันมาจากชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากในพื้นที่ ลักษณะเด่นของเต้าส้อพังงาคือแป้งบางกรอบ ไส้ถั่วนุ่มละมุน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัว โดยเฉพาะเต้าส้อสูตรโบราณที่ยังคงรสชาติดั้งเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วน นับเป็นของฝากพังงาที่ควรค่าแก่การซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน

2. ปลาฉิ้งฉ้างอบแห้ง

ปลาฉิ้งฉ้างหรือปลากระตัก เป็นของดีจากทะเลอันดามัน เป็นของฝากพังงาที่มาจากชุมชนเกาะยาวใหญ่ ที่มีการทำปลาฉิ้งฉ้างตากแห้งหันมาอย่างยาวนาน โดดเด่นด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยแคลเซียมจากธรรมชาติ ผ่านกระบวนการอบแห้งที่พิถีพิถัน คงความอร่อยและคุณภาพไว้ได้นาน เหมาะสำหรับนำไปทอดหรือปรุงอาหารได้หลากหลาย

สำหรับใครที่อยากลิ้มรสปลาฉิ้งฉ้างแบบออริจินอล พร้อมสัมผัสความงดงามของเกาะยาวน้อย อย่าลืมแวะมาพักที่ พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao Resort) ที่พักเกาะยาวแห่งนี้ไม่เพียงให้คุณได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูพิเศษจากปลาฉิ้งฉ้างให้คุณได้ลองลิ้มรสแบบดั้งเดิมในบรรยากาศริมทะเลอันเงียบสงบ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวพังงา

3. กะละแมพังงาโบราณ

กะละแมพังงาหรือ “กัมแม” เป็นของฝากพังงาที่มีการถ่ายทอดสูตรโบราณกันมาหลายรุ่น กะละแมพังงาโบราณที่พังงาจะเน้นใช้กะทิคั้นสดและวัตถุดิบคุณภาพดี เพื่อให้ได้กะละแมเนื้อเหนียวนุ่มกำลังดี มีให้เลือกทั้งรสดั้งเดิมและรสใบเตย รวมถึงแบบหวานน้อยสำหรับผู้รักสุขภาพ ขนาดพอดีคำ กินง่าย ไม่เลอะมือ

4. ลูกชกสด

ลูกชกเป็นของฝากพังงาที่มีความพิเศษและหายาก ลูกชกจะเติบโตตามธรรมชาติในพื้นที่ป่าและภูเขาของจังหวัดพังงา ต้นชกมีลักษณะคล้ายต้นปาล์มสูงถึง 20-25 เมตร การเก็บเกี่ยวต้องอาศัยความชำนาญสูง แต่ละต้นจะออกผลเพียงครั้งเดียวในรอบ 25-30 ปี ทำให้ลูกชกกลายเป็นของฝากพังงาที่หากินได้ยาก

ลูกชกสดที่นำมาต้มสุกมีรสชาติมัน ๆ จืด ๆ เป็นเอกลักษณ์ นิยมรับประทานกับน้ำแข็งและน้ำเชื่อม ชาวบ้านบางเตยใต้ได้สืบทอดภูมิปัญญาการแปรรูปลูกชก สร้างรายได้ให้ชุมชนและรักษามรดกทางวัฒนธรรมอาหารของพังงาไว้ได้อย่างยั่งยืน

5. กะปิเกาะพระทอง

กะปิเกาะพระทอง

กะปิเกาะพระทองเป็นของฝากพังงาที่ผลิตจากเคยสดจากทะเลแท้ 100% ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ใช้วิธีการตำแบบโบราณที่ให้เนื้อสัมผัสละเอียด กลิ่นหอม มีสีแดงอมชมพูจากเคยธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของสี สารกันบูด แป้ง หรือสีสังเคราะห์ ความพิเศษของกะปิเกาะพระทองอยู่ที่กระบวนการผลิตที่สะอาด ได้มาตรฐาน และรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วน ช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารกลมกล่อม 

6. น้ำพริกกุ้งเสียบ

น้ำพริกกุ้งเสียบเป็นของฝากพังงาที่โดดเด่นด้วยรสชาติเผ็ดร้อนแบบอาหารใต้ ผลิตจากกุ้งเสียบคุณภาพดี ผ่านการคัดเลือกและแปรรูปอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานกับเครื่องเทศและสมุนไพรพื้นบ้าน ให้รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องแกง เหมาะสำหรับรับประทานกับผักสด หรือจะคลุกข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน

7. สะตอดอง

สะตอดองหรือ “ลูกตอดอง” เป็นของฝากพังงาที่แสดงถึงภูมิปัญญาการถนอมอาหารของชาวใต้ โดยจะเลือกใช้สะตอคุณภาพดี เม็ดใหญ่สมบูรณ์ ผ่านกระบวนการดองที่พิถีพิถัน ให้รสชาติเค็มนำ เปรี้ยวตาม กรอบอร่อย เก็บได้นาน บรรจุในภาชนะที่สะอาด เหมาะสำหรับเป็นเครื่องเคียงอาหารใต้ หรือจะกินกับน้ำพริกก็อร่อยไม่แพ้กัน

8. ข้าวเหนียวกวน

ข้าวเหนียวกวนหรือ “เหนียวกวน” เป็นของฝากพังงาที่ผลิตด้วยกรรมวิธีโบราณที่ต้องใช้ความชำนาญสูง ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี กวนด้วยมือจนได้เนื้อสัมผัสหนึบหนับ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติหวานมันกำลังดี ที่สำคัญไม่ใส่สารกันบูด ทำให้ได้ข้าวเหนียวกวนรสชาติอร่อยถูกปาก 

9. แกงไตปลาสำเร็จรูป

แกงไตปลาสำเร็จรูป

สำหรับใครที่ชอบรสชาติแกงใต้ที่มีความเผ็ดร้อน ถึงเครื่อง ต้องไม่พลาดที่จะซื้อแกงไตปลาสำเร็จรูปกลับไปเป็นของฝากพังงา เพราะแกงไตปลาสำเร็จรูปของที่พังงาให้รสชาติดั้งเดิมแบบฉบับอาหารใต้ไว้ได้อย่างครบถ้วน ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน พร้อมเนื้อปลาเนียนละเอียด เครื่องแกงหอมกลมกล่อม รสชาติจัดจ้านแบบใต้แท้

10. หมั่วหลาว

หมั่วหลาวหรือขนมงาพอง เป็นของฝากพังงาที่สะท้อนการผสมผสานวัฒนธรรมจีนฮกเกี้ยนกับวิถีชีวิตท้องถิ่น ทำจากแป้งผสมเผือกบด ทอดจนฟู คลุกงาขาว ให้ความกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นงา รสชาติหวานพอดี จะรับประทานเล่น หรือรับประทานคู่กับชา กาแฟก็อร่อยลงตัว

สรุป

10 ของฝากพังงาที่ได้นำมาแนะนำทุกคนนั้นมีความหลากหลายทั้งอาหารคาว หวาน และขนมโบราณที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น ใครมาเที่ยวพังงาอย่าลืมแวะซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน นอกจากจะได้ลิ้มรสความอร่อยแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ของฝากพังงาแต่ละชนิดล้วนผ่านการคัดสรรและผลิตอย่างพิถีพิถัน รับรองว่าซื้อกลับไปเป็นของฝากใครก็ต้องประทับใจ

เมื่อมาเที่ยวพังงา แล้วคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่รวมความงามของทะเล ภูเขา และป่าชายเลนไว้ในที่เดียวกัน เขาหน้ายักษ์ คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด เพราะที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของพังงาที่ซ่อนตัวอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง บทความนี้จะชวนไปรู้จักกับเขาหน้ายักษ์ให้มากขึ้นว่ามีความน่าสนใจอย่างไร และมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง พร้อมพาคุณดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน

สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศความเงียบสงบและธรรมชาติอันงดงามหลังจากเที่ยวเขาหน้ายักษ์ การพักผ่อนที่ พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao Resort) คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด เพราะรีสอร์ทเกาะยาวน้อยแห่งนี้จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความสงบ โดยมีท้องทะเลสีฟ้าครามและภูเขาหินปูนล้อมรอบ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การผ่อนคลายอย่างยิ่ง

ชวนรู้จักเขาหน้ายักษ์คืออะไร

เขาหน้ายักษ์ ตั้งอยู่บริเวณหาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง โดดเด่นด้วยชายหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาว โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใส พร้อมโขดหินรูปทรงแปลกตาที่มีประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ

ตำนานของเขาหน้ายักษ์เล่าขานสืบต่อกันมาว่า แต่เดิมบริเวณหน้าผาที่หันออกสู่หมู่เกาะสิมิลันนั้น มีลักษณะคล้ายใบหน้ายักษ์ที่กำลังโกรธเกรี้ยว จนกระทั่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือรบญี่ปุ่นหลายลำที่แล่นผ่านบริเวณนี้เกิดอับปางลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ด้วยความเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์จากหน้าผายักษ์ ทหารญี่ปุ่นจึงใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายส่วนที่เป็นหน้ายักษ์จนพังทลายลงสู่ทะเล กลายเป็นที่มาของชื่อเขาหน้ายักษ์

ที่เที่ยวที่น่าสนใจของเขาหน้ายักษ์

ที่เที่ยวที่น่าสนใจของเขาหน้ายักษ์

เขาหน้ายักษ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งทะเล ภูเขา และป่าชายเลนที่มีความงดงาม อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้คุณได้เลือกทำตามความชอบอีกมากมาย ไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง

ทุ่งหญ้าสะวันนา

ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ของเขาหน้ายักษ์คือทุ่งเสม็ดขาวขนาดใหญ่กว่า 1,000 ไร่ ที่ได้รับฉายาว่า “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” ด้วยภูมิทัศน์ที่คล้ายคลึงกับทุ่งหญ้าในแอฟริกา เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่อง หญ้าสีทองจะเปล่งประกายงดงามสุดลูกหูลูกตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงาม น่าประทับใจ

ชายหาดทอดตัวยาว

เขาหน้ายักษ์โอบล้อมด้วยชายหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาวถึง 13 กิโลเมตร เป็นเวิ้งอ่าวที่สงบเงียบ น้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสสะอาด โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ที่นี่ยังเป็นแหล่งวางไข่ของเต่ามะเฟือง สัตว์ทะเลหายากที่จะขึ้นมาวางไข่ในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ อาบแดด หรือเดินเล่นชมวิวริมชายหาดได้อย่างเพลิดเพลิน

จุดชมวิว

บริเวณยอดเขาหน้ายักษ์มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอ่าวท้ายเหมืองได้แบบ 360 องศา ทางขึ้นจุดชมวิวเป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้นประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะสามารถมองเห็นทุ่งหญ้าสะวันนา ป่าชายเลน และท้องทะเลอันดามันที่ทอดยาวสุดสายตา เหมาะสำหรับการถ่ายภาพยามพระอาทิตย์ขึ้นและตก

ดำน้ำชมปะการัง

น้ำทะเลบริเวณเขาหน้ายักษ์มีความใสสะอาด เหมาะแก่การดำน้ำตื้นชมปะการังที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนที่ทะเลค่อนข้างสงบ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับปะการังอ่อน ปะการังแข็ง และสัตว์ทะเลนานาชนิด เช่น ปลาการ์ตูน ปลาสลิดหิน และดาวทะเล แนะนำให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำจากร้านบริการในพื้นที่ และควรดำน้ำในจุดที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย

พายเรือคายัค

การพายเรือคายัคที่เขาหน้ายักษ์เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เส้นทางพายเรือจะพาคุณผ่านอุโมงค์ธรรมชาติที่เกิดจากรากไม้โกงกางที่ทอดตัวเป็นแนวยาว สามารถพายเรือลอดผ่านได้ในช่วงน้ำขึ้น มีบริการให้เช่าเรือคายัคพร้อมไกด์นำทางที่มีความชำนาญในพื้นที่ แนะนำให้เริ่มพายในช่วงเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงแดดจัดและคลื่นลมแรง

ชมระบบนิเวศน์ ป่าชายเลน

ป่าชายเลนบริเวณเขาหน้ายักษ์เป็นหนึ่งในป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดพังงา นักท่องเที่ยวสามารถชมระบบนิเวศน์ป่าชายเลน ชมนกนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และสังเกตสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศแห่งนี้

การเดินทางไปเขาหน้ายักษ์

การเดินทางไปเขาหน้ายักษ์

เส้นทางรถยนต์

เส้นทางเรือ

รายละเอียดที่เที่ยวเขาหน้ายักษ์อื่น ๆ

สรุป

เขาหน้ายักษ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไว้อย่างครบครัน ทั้งชายหาดทรายขาว ทุ่งหญ้าสะวันนา ป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ และกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัยที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติในรูปแบบที่แตกต่าง การเดินทางอาจต้องวางแผนล่วงหน้าเล็กน้อย แต่ความสวยงามและประสบการณ์ที่จะได้รับนั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดพังงา

หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวพังงาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวตะกั่วป่าคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด ตะกั่วป่า คือเมืองเก่าของจังหวัดพังงา ที่มีประวัติความเป็นมานานหลายร้อยปี พร้อมทั้งความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นทุกมุมของเมือง ที่เที่ยวตะกั่วป่ามีทั้งความงามและเสน่ห์รอคอยให้คุณไปชม

ใครที่อยากมาสัมผัสความงดงามของตะกั่วป่า และกำลังมองหาที่พักในพังงา เราขอแนะนำพาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao) รีสอร์ทบนเกาะยาวน้อยที่พร้อมมอบความเป็นส่วนตัวให้คุณ กับที่พักแบบวิลล่า ที่ออกแบบให้มีความใกล้ชิดธรรมชาติได้อย่างลงตัว ช่วยให้คุณสัมผัสธรรมชาติได้ทุกการพักผ่อน

 1. Street Art

Street Art

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพกับงานศิลปะบนกำแพง “Street Art” ในตะกั่วป่าคือจุดเช็กอินที่ต้องไม่พลาด! เพราะที่นี่เป็นที่เที่ยวตะกั่วป่าที่เต็มไปด้วยภาพวาดสีสันสดใสที่สะท้อนความเป็นมาของเมืองตะกั่วป่า บางภาพเกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่ในอดีตที่เคยรุ่งเรืองในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งการวาดภาพบนกำแพงไม่เพียงแค่การตกแต่งเมือง แต่ยังเป็นการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย

หนึ่งในภาพที่ไม่ควรพลาดคือภาพการร่อนแร่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงชีวิตและการทำงานในสมัยที่ตะกั่วป่าเคยเป็นแหล่งเหมืองแร่ขนาดใหญ่ แม้จะไม่มีการทำเหมืองแล้ว แต่การที่ภาพเหล่านี้ยังคงอยู่ในเมืองทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์และน่าค้นหาอย่างยิ่ง

2. สะพานเหล็กบุญสูง

สะพานเหล็กบุญสูง (หรือสะพานเหล็กโคกขนุน) เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวตะกั่วป่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยนำเหล็กที่ได้จากเรือขุดแร่ที่หยุดกิจการมาใช้ในการสร้างสะพาน การมาเที่ยวที่สะพานนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของอดีตและเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปที่มีฉากหลังเป็นแม่น้ำตะกั่วป่า

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : 076-481-484
  • พิกัด : Boon Soong Iron Bridge

3.โรงเรียนเต้าหมิง

โรงเรียนเต้าหมิง ตั้งอยู่ในเมืองเก่าของตะกั่วป่าและมีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม โรงเรียนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2465 โดยใช้ช่างฝีมือชาวจีนในการก่อสร้าง และได้เปิดสอนทั้งในระดับประถมศึกษาและการเรียนการสอนภาษาจีน แม้ว่าปัจจุบันโรงเรียนนี้จะไม่เปิดสอนแล้ว แต่คุณสามารถเข้าชมอาคารและสัมผัสกับความงามทางสถาปัตยกรรมที่ยังคงอยู่ได้

  • เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : 076-424-524
  • พิกัด : Tao Ming School

4. ศาลเจ้าพ่อกวนอู

ศาลเจ้าพ่อกวนอู หรือที่ชาวตะกั่วป่ารู้จักกันในชื่อ “ซิ่นใช่ตึ๋ง” เป็นศาลเจ้าจีนที่มีอายุประมาณ 170 ปี ศาลแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านตลาดเก่าและเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวตะกั่วป่า การมาที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศทางศาสนาและประเพณีจีนแบบดั้งเดิม ซึ่งในทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาลถือศีลกินผัก ที่ศาลเจ้าพ่อกวนอูนี้เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมต่าง ๆ มากมาย เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวตะกั่วป่าที่ไม่ควรพลาด

5. ถนนคนเดินตะกั่วป่า

ถนนคนเดินตะกั่วป่า เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวตะกั่วป่าที่น่าสนใจ ในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ โดยในช่วงนี้จะมีการจัดงาน “ถนนสายวัฒนธรรมตะกั่วป่า” ซึ่งเป็นการรวมตัวของคนในชุมชนออกร้านขายของทั้งอาหารและของฝากจากท้องถิ่นที่หายาก ถนนนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศวัฒนธรรมที่ชวนให้หลงรัก ตั้งแต่ Street Art ที่ตกแต่งกำแพงไปจนถึงขนมพื้นเมืองอร่อย ๆ ที่คุณสามารถหาซื้อไปเป็นของฝากได้

  • เวลาทำการ : เปิดทุกวันอาทิตย์ เวลา 8.00 – 16.00 น.
  • เบอร์โทรติดต่อ : 095-932-9462
  • พิกัด : Takua Pa Walking Street

6. น้ำตกวังแม่เฒ่า

น้ำตกวังแม่เฒ่า เป็นที่เที่ยวตะกั่วป่าที่เหมาะแก่การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และบรรยากาศที่เงียบสงบ น้ำตกแห่งนี้ถือเป็นที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำและท่องเที่ยวในธรรมชาติที่สวยงาม

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : –
  • พิกัด : Ban Dok Daeng School

7. น้ำตกสายรุ้ง

น้ำตกสายรุ้ง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้และพืชพรรณธรรมชาติ ที่นี่เป็นที่เที่ยวตะกั่วป่าที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินป่าและการถ่ายภาพท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : 076-481-484
  • พิกัด : Sai Rung Waterfall

8.บ้านขุนอินทร์

บ้านขุนอินทร์ เป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2460 และเคยเป็นที่อยู่อาศัยของ ร.อ.ท. ขุนอินทรคีรี ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์เมืองตะกั่วป่า แม้ปัจจุบันจะเป็นเพียงสถานที่เที่ยวตะกั่วป่า แต่ยังคงสามารถสัมผัสกับความงามของบ้านและความเป็นมาของตระกูลที่เกี่ยวข้องกับเมืองนี้ได้

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : 095-932-9462
  • พิกัด : Khun In House

9. วัดเสนานุชรังสรรค์

วัดเสนานุชรังสรรค์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดใหม่กำแพง” เป็นพระอารามหลวงที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2390 วัดนี้มีความสำคัญทั้งในด้านศาสนาและประวัติศาสตร์ของตะกั่วป่า โดยในอดีตอุโบสถของวัดนี้เคยเป็นสถานที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยาอีกด้วย

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : 076-431-228
  • พิกัด : Wat Sena Nucharangsan

10. บ้านโบราณ

 บ้านโบราณ

บ้านโบราณในตะกั่วป่า เป็นสถานที่ที่ช่วยให้คุณย้อนเวลาสู่ชีวิตในอดีตของชาวตะกั่วป่า ภายในบ้านจะมีการตกแต่งด้วยของโบราณที่สะสมมาจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งจานชาม ปิ่นโต และภาพเก่า ๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตในสมัยก่อน คุณสามารถแวะเข้าชมบ้านได้ในวันอาทิตย์ที่เป็นช่วงเวลาของการเปิดบ้านให้เข้าชม

  • เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวันอาทิตย์
  • เบอร์โทรติดต่อ : –
  • พิกัด : Takua Pa Walking Street

สรุป

การเดินทางไปเยือนที่เที่ยวตะกั่วป่าไม่เพียงแต่จะพาคุณไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเป็นการเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของเมืองเก่าที่มีเสน่ห์แห่งนี้ เชื่อว่าหลังจากที่ได้เดินทางมาที่ตะกั่วป่าแล้ว คุณจะหลงรักความสงบและเสน่ห์ของเมืองนี้ไม่รู้ลืม

หลายคนรู้จักพังงาในฐานะเมืองท่องเที่ยวทางทะเล แต่วันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเล ที่ซ่อนความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไว้มากมาย ทั้งภูเขา น้ำตก และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่น่าค้นหา แต่ก่อนที่จะออกเดินทางไปเที่ยว ใครที่กำลังมองหาที่พักที่มีความสวยงาม เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao) รีสอร์ทบนเกาะยาวน้อย ที่พักที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขตร้อนและหาดทรายขาวส่วนตัว มาพร้อมวิลล่าและห้องพักที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ช่วยให้คุณได้พักผ่อนแบบส่วนตัว อย่างเต็มอิ่มจากการท่องเที่ยวพังงา

1.ล่องแพไม้ไผ่วังเคียงคู่

ที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเลแห่งแรกที่ไม่ควรพลาด การล่องแพไม้ไผ่ที่วังเคียงคู่ล่องผ่านสายน้ำใสเย็นจากต้นน้ำในอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ใช้เวลา 30-40 นาที มีจุดแวะพักลงเล่นน้ำ เปิดให้บริการวันละ 8 รอบ เริ่มตั้งแต่ 09.00 น. ราคา 500 บาทต่อแพ นั่งได้ 2 คน

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน 08.30 – 17.00 น.
  • เบอร์โทรติดต่อ : 095-410-1988
  • พิกัด : Komol‘s Corner Bamboo Rafting

2.สปาสามร้อน บ้านโคกไคร

สปาสามร้อน บ้านโคกไคร

สัมผัสที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเลสุดพิเศษ กับสปาธรรมชาติที่เดียวในไทย ประกอบด้วยทรายร้อน โคลนร้อน และน้ำเค็มร้อน จากความร้อนใต้พิภพบริเวณรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย เปิดให้บริการเดือนละ 10 วัน ช่วง 3-7 ค่ำ ตั้งแต่ตี 5 ถึงช่วงสาย ๆ พร้อมกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติและรับประทานอาหารท้องถิ่นรสชาติถึงเครื่อง

3.ล่องแก่ง สองแพรก

ที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเลสำหรับสายผจญภัย ล่องแก่งผ่านแก่งหินและสายน้ำจากน้ำตกโตนปริวรรต ระยะทาง 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีฝีพายมืออาชีพดูแลความปลอดภัย 2 คนต่อเรือ เปิดให้บริการวันละ 2 รอบ เวลา 11.30 น. และ 13.30 น.

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : 086-496-3290
  • พิกัด : Song Phraek

4.เขาไข่นุ้ย

เขาไข่นุ้ยเป็นที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเลที่สูงจากระดับน้ำทะเล 200 เมตร จุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยอดฮิตของพังงา มองเห็นวิวทะเลหมอกในมุมกว้าง สวยงามไม่แพ้ภาคเหนือ เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติและชอบถ่ายภาพ ควรมาช่วงเช้ามืดเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี
  • เบอร์โทรติดต่อ : 076-410-837
  • พิกัด : Khao Khai Nui Viewpoint

5.ถนนสายวัฒนธรรมตะกั่วป่า

ถนนสายวัฒนธรรมตะกั่วป่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเลที่จะพาคุณย้อนเวลาสู่อดีต ด้วยอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีสอายุกว่า 100 ปี เปิดทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย พบกับอาหารพื้นเมืองตะกั่วป่า ขนมโบราณ และร้านกาแฟในบรรยากาศย้อนยุค โดยเฉพาะร้าน “โกปี๋ กั่วป่า” ที่ได้รับรางวัลการันตีความอร่อย

6.หลาดลองแล

หลาดลองแลตลาดที่รวมของดีชุมชนบางนุ เปิดทุกวันอาทิตย์ 10.00-17.00 น. พบกับอาหารพื้นเมือง ขนมโบราณ ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้า OTOP คุณภาพ ในบรรยากาศร่มรื่น ราคาย่อมเยา เป็นตลาดชุมชนที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

7.บ่อน้ำพุร้อนรมณีย์

บ่อน้ำพุร้อนรมณีย์

บ่อน้ำพุร้อนรมณีย์เป็นที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเลเพื่อสุขภาพ บ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติอุณหภูมิ 40-63 องศา มีแร่ธาตุที่เชื่อว่าช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย บำรุงผิวพรรณ และช่วยผ่อนคลาย มีบ่อแช่ให้เลือกหลายระดับอุณหภูมิ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน 06.00 – 19.00 น.
  • เบอร์โทรติดต่อ : 076-670-209
  • พิกัด : Rommanee Hot Springs

8.น้ำตกสระนางมโนราห์

น้ำตกสระนางมโนราห์ เป็นน้ำตกสวยที่ไหลลดหลั่นตามธรรมชาติ มีแอ่งน้ำให้เล่นหลายจุด โอบล้อมด้วยป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจและปิกนิก มีลานกางเต็นท์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 – 16.00 น.
  • เบอร์โทรติดต่อ : 093-662-9415
  • พิกัด : Sa Nang Manora Forest Park

9.คลองสังเน่ห์ ตะกั่วป่า

คลองสังเน่ห์ ตะกั่วป่า เป็นที่เที่ยวพังงาที่ได้รับฉายาว่า Little Amazon แห่งพังงา ล่องเรือชมธรรมชาติป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ พบต้นไม้อายุนับร้อยปี รากไม้ที่ทอดยาวสวยงาม และสัตว์นานาชนิด เช่น นกเงือก ลิง งูปล้องทอง ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 – 18.00 น.
  • เบอร์โทรติดต่อ : 086-953-1789
  • พิกัด : Khlong Sang-Ne

10.Beyond Skywalk Nangshi

Beyond Skywalk Nangshi แลนด์มาร์คใหม่ สกายวอล์คที่สูงและยาวที่สุดในไทย ชมวิวอ่าวพังงาแบบ 360 องศา สวยทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในยามค่ำคืนชมดาวบนท้องฟ้า ค่าเข้าชม 500 บาท รวมเครื่องดื่มมูลค่า 300 บาท

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน
  • เบอร์โทรติดต่อ : 076-429-965
  • พิกัด : Beyond Skywalk Nangshi

สรุป

ที่เที่ยวพังงาไม่ใช่ทะเลมีให้เลือกมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมาเที่ยวแบบครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อน รับรองว่าจะได้สัมผัสความสวยงามและความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่ไม่แพ้ทะเลอันดามันเลยทีเดียว

การประมงพื้นบ้านกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล

การประมงพื้นบ้านเป็นมากกว่าเพียงการจับปลา แต่เป็นวิถีชีวิตที่สืบทอดมาอย่างยาวนานของชุมชนชายฝั่งทะเลไทย นอกจากจะเป็นแหล่งอาหารและรายได้สำคัญแล้ว การประมงพื้นบ้านยังมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ด้วยวิธีการจับสัตว์น้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกจับสัตว์น้ำตามฤดูกาล และการดูแลรักษาระบบนิเวศชายฝั่ง ชาวประมงพื้นบ้านจึงเป็นทั้งผู้ใช้และผู้พิทักษ์ท้องทะเลไทย

ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำประมงพื้นบ้าน จนไปถึงรูปแบบต่าง ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์สำหรับทำประมงที่ควรรู้ไว้ด้วย

ประมงพื้นบ้าน คืออะไร

ประมงพื้นบ้าน หมายถึง การทำประมงขนาดเล็กโดยชาวบ้านในชุมชนชายฝั่งทะเล ทั้งชายและหญิง ที่ใช้เรือขนาดเล็กหรือไม่ใช้เรือ และใช้เครื่องมือประมงแบบดั้งเดิมที่ไม่ทำลายล้าง เพื่อจับสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งเป็นหลัก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภคในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม ประมงพื้นบ้านมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของชุมชนชายฝั่ง รวมถึงการรักษาวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น

รูปแบบการทำประมงพื้นบ้าน

รูปแบบการทำประมงพื้นบ้าน

การประมงพื้นบ้านมีรูปแบบที่หลากหลาย สะท้อนถึงภูมิปัญญาและการปรับตัวของชาวประมงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและทรัพยากรในท้องถิ่น แต่ละรูปแบบมีเอกลักษณ์และวิธีการที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ การประมงพื้นบ้านแบบใช้เรือ และการประมงพื้นบ้านแบบใช้เครื่องมือดัก

ประมงพื้นบ้านแบบใช้เรือ

ประมงพื้นบ้านแบบใช้เรือ เป็นการทำประมงโดยใช้เรือขนาดเล็ก มักเป็นเรือหางยาวหรือเรือประมงขนาดไม่เกิน 10 ตันกรอส ออกหาปลาในบริเวณชายฝั่งไม่ไกลจากฝั่งมากนัก จุดเด่นของการประมงแบบนี้คือความคล่องตัวและการปรับเปลี่ยนวิธีการจับปลาตามฤดูกาลและชนิดของสัตว์น้ำ เครื่องมือที่ใช้มักเป็นอวนขนาดเล็ก เบ็ดราว หรือลอบ ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบนิเวศน้อยกว่าการประมงเชิงพาณิชย์

ประมงพื้นบ้านแบบใช้เครื่องมือดัก

ประมงพื้นบ้านแบบใช้เครื่องมือดัก เป็นการทำประมงโดยไม่ใช้เรือหรือใช้เรือขนาดเล็กมาก มักทำในบริเวณชายฝั่งหรือป่าชายเลน เครื่องมือที่ใช้มีหลากหลาย เช่น ไซ ลอบ โพงพาง และยอ แต่ละชนิดออกแบบมาเพื่อจับสัตว์น้ำเฉพาะประเภท จุดเด่นของการประมงแบบนี้คือการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการออกแบบเครื่องมือให้เหมาะกับสภาพพื้นที่และชนิดของสัตว์น้ำ ทำให้สามารถจับสัตว์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายระบบนิเวศ

อุปกรณ์สำหรับการทำประมงพื้นบ้าน

อุปกรณ์สำหรับการทำประมงพื้นบ้าน

อุปกรณ์สำหรับการทำประมงพื้นบ้านในทะเลมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะและใช้จับสัตว์น้ำแตกต่างกัน ดังนี้

  1. อวนลอย: เป็นอวนที่ลอยอยู่ในน้ำ ใช้จับปลาที่ว่ายผ่านมาติดตาอวน เหมาะสำหรับจับปลาผิวน้ำหลายชนิด เช่น ปลาทู ปลาลัง
  2. เบ็ดราว: เป็นเชือกยาวที่มีเบ็ดหลายตัวผูกติดอยู่ ใช้จับปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลาเก๋า ปลากะพง โดยใช้เหยื่อล่อ
  3. ลอบ: เป็นกรงดักปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆ มีทางเข้าแต่ออกยาก ใช้จับปู ปลาหมึก หรือปลาเศรษฐกิจบางชนิด
  4. แห: เป็นอวนทรงกลมที่ใช้ทอดลงไปในน้ำเพื่อคลุมฝูงปลา เหมาะสำหรับจับปลาในน้ำตื้นหรือบริเวณชายฝั่ง
  5. ไซ: เป็นเครื่องมือดักสัตว์น้ำทำจากไม้ไผ่หรือลวด มีรูปร่างคล้ายกรวย ใช้ดักปลาหรือกุ้งในบริเวณน้ำตื้น
  6. เบ็ดมือ: เป็นเบ็ดที่ใช้มือถือ มีด้ามจับและเชือก ใช้จับปลาโดยตรง เหมาะสำหรับการตกปลาเพื่อการพักผ่อนหรือจับปลาในปริมาณน้อย
  7. ฉมวก: เป็นอาวุธคล้ายหอกใช้แทงปลา มักใช้ในเวลากลางคืนโดยใช้แสงไฟล่อปลา เหมาะสำหรับจับปลาขนาดใหญ่ในน้ำตื้น

ประมงพื้นบ้านช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลได้อย่างไร

การทำประมงพื้นบ้านมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลได้หลายทาง เนื่องจากวิธีการจับสัตว์น้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชาวประมงพื้นบ้านมักใช้เครื่องมือที่เลือกจับเฉพาะสัตว์น้ำขนาดโตและไม่ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ นอกจากนี้ ยังมีการเว้นช่วงการจับในฤดูวางไข่ และมีส่วนร่วมในการดูแลและฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น การปลูกป่าชายเลน การสร้างแนวปะการังเทียม ซึ่งช่วยเพิ่มแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน สำหรับใครที่อยากเที่ยวพังงาแบบอนุรักษ์ กิจกรรมประมงพื้นบ้านเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจ

สรุป

สรุป

การประมงพื้นบ้านไม่เพียงแต่เป็นวิถีชีวิตที่สำคัญของชุมชนชายฝั่ง แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำประมงพื้นบ้าน เรามีทริปการจับปลาทะเลที่ให้คุณได้ทดลองทำกิจกรรมประมงพื้นบ้านด้วยตัวเอง สัมผัสประสบการณ์การจับปลา การใช้เครื่องมือประมงแบบดั้งเดิม และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมงอย่างใกล้ชิด

สนใจร่วมกิจกรรมการจับปลาทะเลและสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน สามารถแวะมาพักได้ที่ที่พักเกาะยาวน้อย พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao Resort) เรามีกิจกรรมจับปลาที่ช่วยให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งเรียนรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลไปพร้อมกัน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานวัฒนธรรมและอนุรักษ์ทะเลไทยไปด้วยกัน

การจัดงานแต่งงานริมทะเลเป็นความฝันของคู่รักหลายคู่ ด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติกของท้องทะเล เสียงคลื่นกระทบฝั่ง และสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่าน ทำให้วันพิเศษของคุณกลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจไปตลอดกาล แต่การจัดงานแต่งริมทะเลให้ออกมาสมบูรณ์แบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยการวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการเลือกธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลที่เหมาะสม

เปิดขั้นตอนการจัดงานแต่งริมทะเลให้สวย เพอร์เฟ็ก

การจัดงานแต่งริมทะเลนั้นมีรายละเอียดมากมายที่ต้องคำนึงถึง ตั้งแต่การเลือกสถานที่ การกำหนดธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเล ไปจนถึงการจัดเตรียมอาหารและการต้อนรับแขก ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญและต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้งานแต่งของคุณออกมาสมบูรณ์แบบและน่าประทับใจ ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญในการจัดงานแต่งริมทะเลให้สวยเพอร์เฟ็ก

เลือกธีมงานแต่งริมทะเลให้ชัด

สิ่งแรกที่คู่บ่าวสาวควรทำคือการกำหนดธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลให้ชัดเจน เพราะธีมงานจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการตกแต่ง การเลือกชุด และบรรยากาศโดยรวมของงาน การมีธีมงานแต่งริมทะเลที่ชัดเจนจะช่วยให้การวางแผนและการจัดเตรียมงานในส่วนอื่น ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีหลักของงาน การออกแบบการ์ดเชิญ หรือการตกแต่งสถานที่ ทั้งหมดนี้จะต้องเข้ากับธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลที่เลือกไว้

เลือกสถานที่

เลือกสถานที่

การเลือกสถานที่จัดงานเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของงานแต่งริมทะเล ควรเลือกชายหาดที่สวยงาม มีความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น ห้องน้ำ ที่จอดรถ และพื้นที่สำหรับจัดเลี้ยง นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงความสะดวกในการเดินทางของแขกด้วย หากเลือกสถานที่ที่สวยงามและตรงกับธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลที่วางไว้ จะช่วยลดภาระในการตกแต่งเพิ่มเติมได้มาก

กำหนดเวลา

การกำหนดเวลาจัดงานเป็นอีกปัจจัยสำคัญสำหรับงานแต่งริมทะเล ควรพิจารณาช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศเหมาะสม ไม่ร้อนจัดหรือมีฝนตกชุก โดยทั่วไปแล้ว การจัดงานในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นใกล้พระอาทิตย์ตกดินจะให้บรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงเรื่องน้ำขึ้นน้ำลงด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างงาน

วางผังโต๊ะ

การวางผังโต๊ะสำหรับงานแต่งริมทะเลมีหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบโต๊ะจีน ค็อกเทล หรือ Long Table แต่ละแบบมีข้อดีและความเหมาะสมกับงานแต่งที่แตกต่างกัน การวางผังโต๊ะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของงานและสามารถจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมกับจำนวนแขกได้ ควรคำนึงถึงทิศทางลม และมุมมองของทะเลด้วย เพื่อให้แขกทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเลอย่างเต็มที่

เลือกอาหาร เครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่มเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของงานแต่ง สำหรับงานแต่งริมทะเล ควรเลือกเมนูที่เข้ากับบรรยากาศ เช่น อาหารทะเลสดใหม่ หรือเมนูที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เบาสบาย รูปแบบการจัดเลี้ยงอาจเป็นแบบบุฟเฟต์ โต๊ะจีน หรือค็อกเทล ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของงาน สำหรับเครื่องดื่ม ควรมีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ให้เลือกเพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของแขกแต่ละคน

 

ไอเดียธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเล

การจัดงานแต่งงานริมทะเลนั้นให้บรรยากาศที่โรแมนติกและเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่การเลือกธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความพิเศษและความน่าจดจำให้กับงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นธีมที่เน้นความสดใส ร่าเริง หรือธีมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เรียบหรู ต่อไปนี้คือไอเดียธีมงานแต่งริมทะเลที่น่าสนใจ

ธีมงานแต่งริมทะเลแบบซัมเมอร์

ธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลแบบซัมเมอร์เป็นหนึ่งในธีมยอดนิยมสำหรับงานแต่งริมทะเล ด้วยโทนสีสดใส สะท้อนบรรยากาศสนุกสนานและมีชีวิตชีวาของฤดูร้อน สีหลักที่มักใช้ในธีมนี้ ได้แก่ สีเหลือง ส้ม ชมพู และฟ้า การตกแต่งอาจใช้ดอกไม้สีสดใส ผลไม้เมืองร้อน หรือของตกแต่งที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หวาย ไม้ไผ่ ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรเป็นแบบสบาย ๆ ไม่เป็นทางการมากนัก เน้นผ้าเบาสบาย เหมาะกับอากาศร้อน

ธีมงานแต่งริมทะเลแบบ Sea Vibe

ธีมงานแต่งริมทะเลแบบ Sea Vibe

ธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเล Sea Vibe เน้นการนำเอาบรรยากาศและองค์ประกอบของทะเลมาใช้ในการตกแต่ง โทนสีหลักจะเป็นสีฟ้า น้ำเงิน และขาว สะท้อนสีของท้องทะเลและฟองคลื่น การตกแต่งอาจใช้วัสดุจากทะเล เช่น เปลือกหอย ปะการัง หรือทราย มาประดับตกแต่ง ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรเป็นสีขาวหรือโทนสีอ่อน เพื่อให้กลมกลืนกับบรรยากาศ ธีมนี้ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และโรแมนติก

ธีมงานแต่งริมทะเลแบบ Beach Bar

Beach Bar เป็นอีกหนึ่งธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลที่ให้บรรยากาศสนุกสนาน ผ่อนคลาย เหมือนกำลังจัดปาร์ตี้ริมชายหาด ในส่วนของการตกแต่งมักใช้โทนสีสดใส ผสมผสานกับวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หวาย ใบมะพร้าว อาจมีการจัดบาร์เครื่องดื่มแบบเปิด หรือจัดพื้นที่สำหรับเต้นรำริมชายหาด ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวและแขกควรเป็นแบบลำลอง สบาย ๆ เหมาะกับบรรยากาศปาร์ตี้ชายหาด

ธีมงานแต่งริมทะเลแบบโบฮีเมียน

ธีมโบฮีเมียนเป็นการผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับความโรแมนติกได้อย่างลงตัว การเลือกธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลด้วยธีมโบฮีเมียนจะเน้นโทนสีที่มีความเป็นธรรมชาติ เช่น น้ำตาล เบจ ครีม ผสมกับสีสดใสแบบพาสเทล การตกแต่งเน้นใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้าลินิน ลูกปัด ขนนก และดอกไม้แห้ง ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวมักเป็นแบบเรียบง่าย มีลูกเล่น เช่น ชุดเจ้าสาวแบบโบฮีเมียนที่ใช้ผ้าลูกไม้หรือผ้าพลิ้วไหว ธีมนี้ให้บรรยากาศผ่อนคลาย เป็นกันเอง และมีเสน่ห์เฉพาะตัว

ข้อควรระวังในการจัดงานแต่งริมทะเล

ข้อควรระวังในการจัดงานแต่งริมทะเล

แม้ว่าการจัดงานแต่งริมทะเลจะให้บรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติก แต่ก็มีข้อควรระวังหลายประการที่คู่บ่าวสาวควรคำนึงถึง เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ

  1. สภาพอากาศ ควรเตรียมแผนสำรองในกรณีที่ฝนตกหรือมีพายุ อาจจัดเตรียมเต็นท์หรือพื้นที่ในร่มไว้เป็นทางเลือก
  2. แสงแดดและความร้อน ควรจัดเตรียมร่มหรือพื้นที่ร่มไว้ให้แขก รวมถึงเครื่องดื่มเย็น ๆ คลายร้อน
  3. เสียงรบกวน เสียงคลื่นและลมอาจรบกวนระบบเสียงในงาน ควรทดสอบระบบเสียงล่วงหน้าและเตรียมไมโครโฟนที่มีคุณภาพดี
  4. ทรายและน้ำทะเล ควรแจ้งแขกล่วงหน้าเกี่ยวกับสภาพพื้นที่ เพื่อให้เตรียมรองเท้าที่เหมาะสม และอาจจัดเตรียมรองเท้าแตะหรือผ้าเช็ดเท้าไว้บริการ
  5. การขออนุญาต หากจัดงานบนชายหาดสาธารณะ ควรตรวจสอบและขออนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นให้เรียบร้อย
  6. การจัดการขยะ ควรมีแผนจัดการขยะที่ดี เพื่อรักษาความสะอาดของชายหาดและสิ่งแวดล้อม

สรุป

สรุป

การจัดงานแต่งงานริมทะเลเป็นทางเลือกที่สร้างความประทับใจและความทรงจำอันแสนวิเศษให้กับคู่บ่าวสาวและแขกผู้มาร่วมงาน การเลือกธีมการจัดงานแต่งงานริมทะเลที่เหมาะสม ช่วยเสริมให้งานแต่งริมทะเลของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนประทับใจ อย่างไรก็ตาม การวางแผนอย่างรอบคอบและคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้งานแต่งริมทะเลของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบ 

สำหรับใครที่อยากจัดงานแต่งริมทะเล พังงาถือเป็นหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสม เพราะมีความสวยงามของทะเลโดยเฉพาะพาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao Resort) ที่พักเกาะยาวน้อย ที่มีความสวยงาม ถูกโอบล้อมไปด้วยท้องทะเลและขุนเขาลูกโต ที่สำคัญที่นี่ยังมีแพ็กเกจจัดงานแต่งงาน ที่พร้อมเนรมิตให้งานแต่งของคุณเป็นดั่งงานแต่งในฝันด้วยธีมงานมืออาชีพ หลังแต่งก็สามารถเที่ยวพังงาต่อได้อีกด้วย

จุดชมวิวเสม็ดนางชี เป็นหนึ่งในจุดเช็กอินที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวพังงา เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ร่ำลือกันว่าสวยเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดและติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย หากคุณอยากเห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ จุดชมวิวแห่งนี้คือสถานที่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

เปิดประวัติจุดชมวิวเสม็ดนางชีมาจากไหน

จุดเริ่มต้นที่ทำให้จุดชมวิวเสม็ดนางชีมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ เกิดจากการที่มีนักบินขับเครื่องบินผ่านอ่าวพังงาและได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเสม็ดนางชีจากบนเครื่องบินแล้วจึงมาตามหาว่าสถานที่นี้คือที่ไหน ภายหลังจากที่มีการถ่ายรูปออกไปทำให้มีนักท่องเที่ยวรวมถึงช่างภาพตามมาเก็บภาพทางช้างเผือกยามค่ำคืนเหนือหมู่เกาะ และทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดเช็กอินอีกแห่งของพังงา

ไฮไลต์ของจุดชมวิวเสม็ดนางชี

ไฮไลต์ของจุดชมวิวเสม็ดนางชี

สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกมาเที่ยวที่จุดชมวิวเสม็ดนางชีดีหรือไม่ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราได้นำเอาไฮไลต์ของสถานที่แห่งนี้มาให้ชมเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้เลย

 

ทัศนียภาพอ่าวพังงาแบบพาโนรามา

เนื่องจากจุดชมวิวเสม็ดนางชีเป็นจุดชมวิวที่อยู่บนยอดเขาสูง 800 เมตร ทำให้วิวที่คุณจะได้เห็นจากด้านบนของจุดชมวิวคือความงามของธรรมชาติภายในอ่าวพังงาที่มองเห็นได้แบบพาโนรามา ไม่ว่าจะเป็นผืนน้ำสีเขียวมรกต ภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ เส้นตัดป่าโกงกางสีเขียว หรือแสงของพระอาทิตย์ตกดินล้วนสร้างความประทับใจให้กับคุณได้แน่นอน

 

เกาะน้อยใหญ่กลางทะเล

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าที่ด้านบนของจุดชมวิวเสม็ดนางชีคุณสามารถมองเห็นเกาะน้อยใหญ่กลางทะเลได้ ซึ่งนั่นคือวิวธรรมชาติที่คุณไม่สามารถพบเห็นได้จากที่ไหน นอกจากที่จุดชมวิวเสม็ดนางชีแห่งนี้เท่านั้น

ท้องฟ้าและแสงสีในช่วงเวลาต่าง ๆ

ภาพถ่ายที่ได้จากท้องฟ้าของจุดชมวิวเสม็ดนางชีร้อยทั้งร้อยล้วนมีแสงและสีที่สวยงามกันทั้งนั้น แต่หากได้มาเห็นของจริงต้องบอกเลยว่าสวยกว่าในภาพที่เห็นเป็นไหน ๆ แต่ความพิเศษของท้องฟ้าและแสงสีที่คุณจะได้เห็นจากที่นี่คือในแต่ละช่วงฤดูกาล ในแต่ละช่วงเวลาที่เดินทางมา แสง สี และบรรยากาศที่คุณจะได้จากจุดชมวิวเสม็ดนางชีมักจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของจุดชมวิวแห่งนี้

ที่เที่ยวรอบ ๆ จุดชมวิวเสม็ดนางชี

ที่เที่ยวรอบ ๆ จุดชมวิวเสม็ดนางชี

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะแพลนทริปเที่ยวเมื่อเดินทางมาจุดชมวิวเสม็ดนางชี อยากเที่ยวแบบคุ้ม ๆ ภายใน 1 วัน เราก็ได้รวบรวมที่เที่ยวบริเวณโดยรอบนำมาฝากเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีที่ไหนบ้างสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างนี้

Bay view cafe

ร้าน Bay view cafe เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์ไทย ๆ มีจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นทะเลได้ไกลแบบสุดลูกหูลูกตา เมนูของคาเฟ่แห่งนี้มีให้เลือกทั้งเมนูอาหารคาว เมนูของหวาน และเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะแวะมาเพื่อนั่งพักผ่อนชิลล์ ๆ หรือมาถ่ายรูปสวย ๆ ก็ตอบโจทย์

ท่าเรือบ้านหินร่ม

ท่าเรือบ้านหินร่มจัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของประเทศไทยเช่นเดียวกัน โดยที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชุมชน อีกทั้งยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และได้รับประทานอาหารทะเลสด ๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะอย่างมากสำหรับคนชอบเที่ยวสไตล์สโลว์ไลฟ์

ทะเลแหวกบ้านหินร่ม

ทะเลแหวกบ้านหินร่มเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดการพัดเอาตะกอนดิน ทราย และเปลือกหอยนานาชนิดมากองรวมที่บริเวณสันหาดคดเคี้ยวรูปทรงคล้ายตัว S ชาวบ้านจะเรียกบริเวณนี้ว่า “ทะเลแหวก” คุณสามารถมาเดินเล่นถ่ายรูปสวย ๆ ได้ในช่วงเวลาเหล่านี้

  • ช่วงเวลา 06.00-08.30 นาฬิกา
  • ช่วงเวลา 16.00-18.00 นาฬิกา

การเดินทางไปจุดชมวิวเสม็ดนางชี

การเดินทางมาเที่ยวจุดชมวิวเสม็ดนางชีสามารถเดินทางมาได้ด้วยเส้นทางจังหวัดภูเก็ต-สะพานสารสิน-พังงา หรือใช้เส้นทางพังงา-โคกกลอย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าตรงบริเวณซอยบ้านท่า-คลองเคียน และจะเจอกับป้ายจุดชมวิวเสม็ดนางชีทางฝั่งขวามือ

สรุป

จบลงไปแล้วสำหรับความน่าสนใจของจุดชมวิวเสม็ดนางชี จุดชมวิวที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของพังงา หากคุณสนใจอยากมาเที่ยวที่นี่แต่ไม่อยากเหนื่อยจนเกินไป เราขอแนะนำจองที่พักที่พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao) ที่พักที่ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของกระบี่และภูเก็ต ทำให้สามารถเดินทางไปเที่ยวเสม็ดนาชีได้ง่าย ที่สำคัญรีสอร์ทนี้ยังมีความสวยงาม เป็นสวรรค์ของการพักผ่อนเลยทีเดียว

ทะเลพังงาเป็นหนึ่งในทะเลที่ขึ้นชื่อว่าเหมาะสำหรับการดำน้ำมากทีเดียว เพราะทะเลฝั่งอันดามันเป็นทะเลที่มีความงดงามและมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสูง ดังนั้นหากคุณมีโอกาสมาพักผ่อนเที่ยวพังงาเราอยากให้คุณได้ลองดำน้ำพังงาสักครั้ง รับลองว่าคุณจะได้ประสบการณ์การเที่ยวที่สุดแสนประทับใจหรือคุณอาจได้เจอกับกิจกรรมสุดโปรดหลังจากลองเข้าร่วมทริปดำน้ำพังงาก็เป็นได้

ประเภทของการดำน้ำมีอะไรบ้าง

การดำน้ำเป็นกิจกรรมที่ให้ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในการสำรวจโลกใต้น้ำ แต่ละประเภทของการดำน้ำมีเอกลักษณ์และข้อกำหนดเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ การทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างประเภทต่าง ๆ จะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมกับระดับทักษะและความสนใจของคุณ

การดำน้ำตื้น

การดำน้ำตื้น หรือ Snorkeling จัดเป็นประเภทของการดำน้ำที่สามารถทำได้ง่ายที่สุด เพียงใส่เสื้อชูชีพให้ตัวลอยและใส่หน้ากากดำน้ำที่มีท่อหายใจก็สามารถดำน้ำตื้นได้แล้ว

การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง

การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง

การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง (Freediving) เป็นการดำน้ำที่ต้องอาศัยทักษะในการว่ายน้ำมากกว่าแบบ Snorkeling แต่ไม่จำเป็นต้องมีประกาศนียบัตร เพียงแค่ใส่หน้ากากดำน้ำที่มีท่อหายใจและใส่ตีนกบก็สามารถดำน้ำได้ลึกลงถึง 5-10 เมตรได้

การดำน้ำลึก

การดำน้ำลึก (Scuba) เป็นการดำน้ำที่สามารถดำได้ลึกที่สุดจาก 3 ประเภทนี้ โดยการดำแบบ Scuba จะลึกตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไปแต่ไม่ควรลึกเกิน 30 เมตร ต้องอาศัยอุปกรณ์ เช่น หน้ากากดำน้ำ ตีนกบ และถังอากาศช่วยหายใจ นอกจากนี้ยังเป็นการดำน้ำที่ต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่งรวมถึงต้องได้รับประกาศนียบัตรรับรองด้วยจึงจะสามารถดำน้ำแบบนี้ได้ 

รวม 5 แหล่งดำน้ำพังงาสวย ๆ 

รวม 5 แหล่งดำน้ำพังงาสวย ๆ

หากคุณสนใจอยากดำน้ำดูปะการังสวย ๆ SERENATA ได้รวบรวม 5 แหล่งดำน้ำพังงาที่สวยคุ้มค่ามาแนะนำให้คุณด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่กำลังแพลนทริปดำน้ำพังงานี่คือสถานที่จุดดำน้ำที่ต้องไม่พลาด

หมู่เกาะสิมิลัน

หมู่เกาะสิมิลันเป็นเกาะที่สามารถดำน้ำได้ทั้งแบบตื้นและลึก ความพิเศษของหมู่เกาะสิมิลันนอกจากความสวยงามของทะเลและแนวปะการังที่มีความอุดมสมบูรณ์แล้ว ที่หมู่เกาะแห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาทะเลหลายชนิด เช่น ฉลาม ปลาโทงแทง ปลากระเบน ปลาบิน และปักเป้าทะเล การดำน้ำที่หมู่เกาะสิมิลันจึงมีโอกาสได้เห็นปลาทะเลหลากหลายชนิดด้วย

หมู่เกาะสุรินทร์

หมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบไปด้วย 5 เกาะ ได้แก่ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง เป็นหมู่เกาะที่เหล่าคนรักปะการังต้องชอบเพราะที่นี่มีแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่ที่ทั้งสวยทั้งสมบูรณ์ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยเหล่าแพงก์ตอนจำนวนมาก

เกาะตาชัย

เกาะตาชัย

เกาะตาชัยเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่เกาะสิมิลัน หากมาดำน้ำที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นฝูงปลาจำนวนมากภายใต้น้ำทะเลสีฟ้าใส สำหรับจุดดำน้ำของเกาะตาชัยจะมีทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ กองหินตาชัย (กองใต้) กองหินตาชัย (กองเหนือ) และแนวปะการังเกาะตาชัย (Tachai Reef)

จุดเรือจมเปรมชัย 

จุดเรือจมเปรมชัย เป็นจุดดำน้ำพังงาที่อยู่ในเขตของเขาหลัก เป็นจุดที่มีเรือขุดแร่ดีบุกจมอยู่ใต้ท้องทะเล ซึ่งเดิมทีเรือนี้เป็นเรือที่ทางการใช้งานจริงมาก่อน ตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูของการทำเหมือนแร่จบลง ทางการก็ได้ตัดสินใจให้จมเรือเปรมชัยลงใต้ท้องทะเลเพื่อเป็นปะการังเทียมตั้งแต่ปี 2001 จนถึงปัจจุบัน

เกาะบอน

เกาะบอนเป็นหนึ่งในเกาะเล็กที่อยู่ระหว่างหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่เกาะสิมิลัน โดยเกาะแห่งนี้มีอีกชื่อเรียกว่า “เกาะทะลุ” มีจุดดำน้ำ 2 จุดด้วยกันได้แก่ ฝั่งตะวันตกตามแนวสันเขาและกองหินใต้น้ำทางฝั่งเหนือ หากมาดำน้ำที่นี่นักท่องเที่ยวมีโอกาสพบเจอกับปลาและสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ทั้งฉลามเสือดาว ฉลามครีบขาว ปลาบู่ลูกไฟ ฝูงปลากะพง กุ้งพยาบาล ทากทะเล ปลาไหลมอเรย์ กระเบนราหู และฉลามวาฬได้

สรุป 

สรุปแหล่งดำน้ำพังงาสวย ๆ

ทะเลพังงาเป็นทะเลที่มีทั้งความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ พังงาจึงมีจุดดำน้ำหลายแห่งที่น่าสนใจซึ่งแต่ละจุดดำน้ำก็จะมีความงามและมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป หากคุณยังไม่เคยลองดำน้ำมาก่อนเราแนะนำว่าเลือกจองที่พักเกาะยาวน้อย โดยเฉพาะพาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao) ที่พักที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะยาวน้อย ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่มีความงดงาม พร้อมด้วยชายหาดส่วนตัว ที่ช่วยให้คุณได้พักผ่อนชาร์จแบตในบรรยากาศที่มีความเงียบสงบ แล้วมาเปิดประสบการณ์กับทริปดำน้ำพังงา การันตีเลยว่ากิจกรรมนี้จะสร้างความประทับใจให้กับคุณไม่รู้ลืม

ภูเก็ต นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อย่างทะเล, แหลม, เกาะ, จุดชมวิว และเมืองเก่าแล้ว ที่ภูเก็ตยังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากแนะนำ ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก ซึ่งสถานที่ที่เรากำลังกล่าวถึงก็คือ ยอดเขานาคเกิด ที่มีพระใหญ่ภูเก็ต หรือพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีภูเก็ต ประดิษฐานอยู่ เพราะที่นี่นอกจากความสวยงามขององค์พระแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาขอพร กราบไหว้ เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตได้ด้วย

ความเป็นมาของพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี

สำหรับความเป็นมาของพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีภูเก็ต วัดพระใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตแห่งนี้ เกิดขึ้นได้จากการก่อสร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์สีขาว ที่มีความโดดเด่น โดยความใหญ่ของพระพุทธรูปปางมารวิชัย ความกว้างจะอยู่ที่ 25 เมตร และมีความสูงมากถึง 45 เมตร ในการสร้างจะมีการใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก และมีการประดับด้วยหินอ่อนสีขาวหยกพม่า ซึ่งความหนักของหินอ่อนหยกขาวที่ว่านี้ มีมากถึง 135 ตัน ต่อ 2,500 ตารางเมตรเลยทีเดียว 

สำหรับการก่อสร้างพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี เกิดขึ้นได้จากเงินบริจาคของประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยจุดประสงค์ของการก่อสร้างขึ้น คือเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสันติ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการมีใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของการมีความหวังด้วย

ความเป็นมาของพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี

จุดชมวิวของวัดพระใหญ่ที่ไม่ควรพลาด

จุดชมวิวของวัดพระใหญ่ภูเก็ต ถือเป็นจุดไฮไลท์สำคัญ และเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คในภูเก็ต ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอย่างเด่นขาด หากมา เที่ยวภูเก็ต เนื่องจากจุดชมวิวของวัดแห่งนี้ เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ทำให้ด้านบนนี้นักท่องเที่ยว สามารถที่จะเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ซึ่งวิวที่เห็นจะมีทั้ง หาดกะตะ, หาดกะรน, อ่าวฉลอง และสถานที่ต่าง ๆ รอบภูเก็ตเลยทีเดียว นอกจากวิวสวย ๆ แล้ว ที่บริเวณรอบองค์พระใหญ่ นักท่องเที่ยวยังสามารถที่จะกราบไหว้ขอพร จากพระประจำวันเกิด และพระเกจิชื่อดังได้อีกหลายองค์ ไม่ว่าจะเป็น หลวงปู่สรวง หลวงปู่มั่น หรือแม้แต่จตุคามรามเทพ

การเดินทางมายังวัดพระใหญ่ภูเก็ต

หากต้องการเดินทางมายังวัดพระใหญ่ภูเก็ต หรือที่พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีภูเก็ตแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ด้วยการขับรถมาจากตัวเมือง โดยใช้ถนนเจ้าฟ้านอก ให้ขับเลยวัดฉลองไปประมาณ 800 เมตร หลังจากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าซอยยอดเสน่ห์ จะเห็นทางขึ้นเขาที่มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร และจะถึงกับที่หมาย เส้นทางนี้สามารถที่จะขับรถเข้ามาได้ทุกชนิด ถึงแม้ว่าบางช่วงของเส้นทางจะมีความลาดชันสักเล็กน้อย แต่รับประกันว่าหากเดินทางมาถึง ความงดงามของที่นี่ จะทำให้คุณประทับใจได้แน่นอน

การเดินทางมายังวัดพระใหญ่ภูเก็ต

สรุปบทความ

นี่คือวัดพระใหญ่ภูเก็ต อีกหนึ่งวัดที่มีความโดดเด่นของจังหวัดภูเก็ต ที่หากนักท่องเที่ยวเดินทางมา นอกจากจะได้มาเยี่ยมชมความสวยอลังการของพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีภูเก็ตองค์สีขาว ที่อยู่บนยอดเขาแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถกราบไหว้ ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเอง ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนที่รักได้ด้วย 

และเพื่อความสะดวกสบายของคุณ หากต้องการจะเดินทางมาเที่ยวที่วัดพระใหญ่แห่งนี้ หรือต้องการจะไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในจังหวัดภูเก็ต เราขอแนะนำให้เลือกเข้าพักที่พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao) ที่พักเกาะยาวน้อย โรงแรมหรูที่อยู่บนหาดส่วนตัว ที่มีทั้งความเงียบสงบ และตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกสบาย 

หากเข้าพักที่พาราไดซ์ เกาะยาว รีสอร์ท (Paradise Koh Yao) นอกจากจะสามารถเดินทางไปเที่ยว ยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ตได้ง่ายแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้คุณเลือกทำได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวเชิงอนุรักษ์, การนั่งเรือชมรอบเกาะ, การพายเรือคายัค, การดำน้ำ, การปั่นจักรยานเที่ยว หรือการเรียนทำอาหารไทย ที่รีสอร์ทแห่งนี้ก็มีให้เลือกสนุกเพียบ!

Check rates & availability

travel date
Room(s)
1
Adult(s)
2
Child(ren)
0
4-15 years
Promo code
Home
Offers
Dining